เช็กก่อนช้อป2025 ซื้อของจากต่างประเทศโดนภาษีอะไรบ้าง!!
ทุกครั้งที่ไปเที่ยวต่างประเทศ นอกจากพกประกันเดินทางต่างประเทศเพิ่มความอุ่นใจแล้ว การช้อปปิ้งก็ถือว่าสิ่งคู่กัน ไม่ว่าจะเป็นของฝากฮ่องกง ของฝากญี่ปุ่น หรือของฝากจากอังกฤษเองก็ตาม แต่อย่าลืมว่าการซื้อของจากต่างประเทศจะต้องเสียภาษีศุลกากร วิริยะไกด์เลยรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับภาษีอากรขาเข้า (นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ) รวมถึงวิธีคำนวณอัตราภาษีนำเข้า และสิ่งที่ควรระวัง เพื่อไม่ให้เสียค่าปรับหรือโดนยึดสินค้า
ภาษีนำเข้าคืออะไร
ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากสินค้าหรือบริการที่นำเข้ามาจากต่างประเทศโดยภาครัฐ เพื่อควบคุมสินค้าและสร้างรายได้ให้ประเทศ โดยกรมศุลกากรเป็นผู้จัดเก็บ ซึ่งภาษีหลัก ๆ ที่ผู้ซื้อสินค้าต้องจ่าย มีดังนี้
1. ภาษีนำเข้า (Import Duty): เรียกเก็บจากสินค้าที่นำเข้าในประเทศ โดยมีอัตราภาษีนำเข้าแตกต่างกันตามประเภทของสินค้า หรืออาจได้รับสิทธิประโยชน์ตามข้อตกลง FTA
2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT): เรียกเก็บเพิ่มจากมูลค่าสินค้าที่นำเข้าในอัตรา 7%
3. ภาษีสรรพสามิต (Excise Tax): เรียกเก็บจากสินค้าฟุ่มเฟือยประเภท ยาสูบ แอลกอฮอล์ หรือน้ำมัน
4. ภาษีเพื่อมหาดไทย: เรียกเก็บเพิ่มจากภาษีสรรพสามิต
5. ค่าธรรมเนียมศุลกากร: ค่าธรรมเนียมในการดำเนินการทางศุลกากร ไม่ว่าจะเป็นค่าตรวจสอบสินค้า ค่าบริการจัดเก็บสินค้าในคลังเป็นต้น
สูตรคำนวณอัตราภาษีนำเข้า: สินค้าต่างประเทศ
ฐานในการคำนวณภาษี ใช้ราคา CIF ในการคำนวณภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ
C = Cost มูลค่าของสินค้าที่นำเข้า หรือราคา FOB
I = Insurance ค่าประกันภัยสินค้า (หากไม่มีค่าประกันภัย จะคิดจาก X 1% ของราคาสินค้า)
F = Freight ค่าขนส่ง
สูตรคำนวณภาษี
อากรขาเข้าที่ต้องชำระ = CIF X อัตราอากรขาเข้า
VAT = (CIF+อากรขาเข้า) X 7%
ดังนั้นภาษีอากรที่ต้องชำระรวม = อากรขาเข้า + VAT
ตัวอย่างการคิดอัตราภาษีนำเข้า
นางสาวจีซูซื้อกระเป๋า Medium Dior Book Tote ราคา 130,000 บาท
นำเข้ากระเป๋าราคา = 130,000 บาท
ค่าประกันภัย 1% ของราคาสินค้า = 1,300 บาท
ค่าขนส่งระหว่างประเทศ = 1,500 บาท
อัตราภาษีนำเข้าตามมูลค่า = 20%
ราคา CIF (130,000+1,300+1,500) =132,800 บาท
ภาษีนำเข้า 132,800X20% = 26,560 บาท
VAT 7% = 11,155.20 บาท
= (132,800+ 26,560) × 7%
รวมภาษีที่ต้องชำระทั้งหมด 26,560+11,155.20 = 37,715.20
ด่านตรวจสัมภาระช่องเขียว(Nothing to declare)
ผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งไม่มีของต้องชำระภาษีอากร, ไม่มีของต้องห้ามให้เดินผ่านช่องตรวจเขียว หรือช่องไม่มีของต้องสำแดง ดังนี้
- ของใช้ส่วนตัว: มีมูลค่ารวมทั้งหมดไม่เกิน 20,000 บาท (ไม่ใช่ของต้องห้าม ต้องกำกัด หรือเสบียงอาหาร)
- บุหรี่: ไม่เกิน 200 มวน, ยาสูบไม่เกิน 250 กรัม หรือน้ำหนักรวมทั้งหมดทุกประเภทไม่เกิน 250 กรัม
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์: ปริมาตรไม่เกิน 1 ลิตร
- เงินตราขาเข้า: นำเข้าได้ไม่เกิน 2 หมื่น US หรือเทียบเท่า
ข้อควรรู้: หากนำบุหรี่ยาสูบ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เข้ามาเกินกว่าปริมาณที่กำหนด โปรดหย่อนใส่กล่องที่กรมศุลกากรจัดไว้ให้
ด่านตรวจสัมภาระช่องมีสิ่งของต้องสำแดงหรือช่องแดง(Goods to declare)
ผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งมีของต้องชำระภาษีอากรให้เดินผ่านช่องตรวจสีแดงหรือช่องมีของต้องสำแดง ดังนี้
- ของใช้ส่วนตัว: ที่มีปริมาณเกินกว่าที่ใช้คนเดียว หรือมีมูลค่ารวมทั้งหมดเกิน 20,000 บาท (ไม่นับรวมมูลค่าสิ่งของติดตัวที่นำไปด้วย) หากมีการสำแดงไว้ก่อนเดินทาง ยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อนเดินทาง และในกรณีสิ่งของที่ผู้โดยสารนำติดตัวมามีมูลค่ารวมทั้งหมดเกิน 80,000 บาท ผู้โดยสารต้องทำเอกสารปฏิบัติพิธีการศุลกากรที่ ส่วนบริการภาษีอากรเพิ่มเติม
- สิ่งของที่นำมาเพื่อขาย: พรีออเดอร์ หรือมีลักษณะทางการค้า
- ของต้องห้ามและผิดกฎหมาย: สารเสพติด (มีไว้เสพ หรือมีไว้ขายก็โดนทั้งนั้น) วัตถุหรือสื่อลามก ของลอกเลียนแบบละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา ธนบัตรหรือเหรียญกษาปณ์ปลอม และสัตว์ป่าสงวน ฯลฯ
- ของต้องกำกับ: พระพุทธรูป, อาวุธปืน, พืช, สัตว์มี, อาหาร, ยา, เครื่องสำอาง, ชิ้นส่วนยานพาหนะ, บุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- การสำแดงเงินตราขาเข้า: กรณีนำเข้าเงินสกุลต่างประเทศที่เป็นธนบัตรหรือเหรียญกษาปณ์มีมูลค่ารวมแล้วเกินกว่า 2 หมื่น US หรือเทียบเท่า ต้องสำแดงรายการเงินตราต่างประเทศนั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ศุลกากร ณ ขณะผ่านด่านศุลกากร หากไม่สำแดง หรือสำแดงรายการไม่ถูกต้อง มีความผิดทางอาญา
ข้อควรรู้: หากท่านมีลักษณะข้อใดข้อหนึ่งที่กล่าวมาจะถูกจับกุมและยึดสินค้า เนื่องจากมีความผิดฐานพยายามลักลอบหนีศุลกากร หรือหลบเลี่ยงภาษี
ของต้องห้าม
- ของที่ห้ามไม่ให้นำเข้ามา หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ดังรายการต่อไปนี้
- สารเสพติด
- วัตถุ หรือสื่อลามก
- ของลอกเลียนแบบเครื่องหมายการค้า ละเมิดลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญา
- ธนบัตร หรือเหรียญกษาปณ์ปลอม
- สัตว์ป่าสงวน หรือสัตว์ที่อยู่ในบัญชีควบคุมของอนุสัญญาไซเตส
ของต้องจำกัด
ของบางรายการที่กฎหมายควบคุมการนำเข้ามาและการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งการจะนำเข้าและการส่งออกของต้องจำกัด ต้องได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องซึ่งจะต้องนำมาแสดงในเวลาปฏิบัติพิธีการศุลกากร ดังรายการต่อไปนี้
- พระพุทธรูป ศิลปวัตถุ โบราณวัตถุ
- อาวุธปืน กระสุนปืน วัตถุระเบิด และสิ่งเทียมอาวุธปืน
- บุหรี่ ยาสูบ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- อาหาร ยา เครื่องสำอาง และอาหารเสริม
- สัตว์มีชีวิตและซากสัตว์
- พืชและส่วนต่างๆ ของพืช
- เครื่องมือวิทยุสื่อสาร อุปกรณ์โทรคมนาคม
- ชิ้นส่วนยานพาหนะ
ข้อแนะนำ: ก่อนเดินทางอย่าลืมเช็กภาษีนำเข้ากรมศุลกากรล่วงหน้า ซื้อของหรือช้อปทุกครั้ง ต้องเก็บใบเสร็จและเอกสารกำกับภาษีทุกครั้ง และหลีกเลี่ยงนำเข้าของต้องห้าม หรือของต้องจำกัด
เที่ยวเต็มที่ช้อปปิ้งไม่มีสะดุด ด้วยประกันเดินทาง V-Travel Comprehensive
นอกจากเรื่องภาษีนำเข้า สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามตลอดการเดินทางของท่าน กับการมีประกันเดินทางต่างประเทศ V-Travel Comprehensive (วี ทราเวล คอมพรีเอนซีฟ) พร้อมมอบความคุ้มครองครอบคลุมทุกความต้องการ
✔ คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสูงสุดถึง 5 ล้านบาท
✔ คุ้มครองการบอกเลิกการเดินทาง สูงสุด 500,000 บาท
✔ คุ้มครองกระเป๋าเดินทางเสียหาย/สูญเสีย สูงสุด 100,000 บาท
✔ คุ้มครองชดเชยเที่ยวบินล่าช้า สูงสุด 40,000 บาท*
✔ คุ้มครองตลอดทั้งปี ไม่จำกัดจำนวนทริป
✔ ระยะเวลาเดินทางแต่ละครั้งสูงสุด 120 วัน
✔ มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม.
✔ กด ซื้อประกันเดินทางออนไลน์ ได้ง่าย ๆ พร้อมรับความคุ้มครองทันที
จำเป็นต้องมีความเข้าใจเรื่องภาษีนำเข้า เพื่อช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งได้อย่างสบายใจ และหากมีประกันเดินทางวิริยะ จะช่วยให้ทริปของคุณสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
บทความที่เกี่ยวข้อง:
เที่ยวบ่อยคุ้มกว่า! ทำไมสายเที่ยวควรมีประกันเดินทางรายปีคุ้มครอง
งบ20K เที่ยวเซี่ยงไฮ้ 4วัน3คืน
ประกันเดินทางต่างประเทศที่ไหนดี เทียบแผนประกัน V-Travel Comprehensive
ที่มา: กรมศุลกากร
หมายเหตุ: เป็นไปตามเงื่อนไขของกรมธรรม์
*20% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สำหรับการล่าช่าทุก ๆ เวลา 6 ชม. เต็มต่อเนื่อง
สินค้าแนะนำ
ประกันการเดินทาง
ประกันเดินทางต่างประเทศ V-Travel Comprehensive