ปัญหาเรื่องการขับถ่าย ปวดท้อง เพราะเคยกลั้นอุจจาระ ไม่ยอมไปเข้าห้องน้ำหรือเนื่องจากการเดินทางหรือสถานการณ์อื่น ๆ ที่ทำให้ไม่สะดวกไปเข้าห้องน้ำ จนการกลั้นอุจจาระบ่อย ๆ พัฒนาไปสู่ภาวะอุจจาระตกค้าง ส่งผลต่อสุขภาพมากมาย ผลเสียของการอั้นอุจจาระจนเป็นภาวะอุจจาระตกค้างมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมกันเลย

  ภาวะอุจจาระตกค้าง คืออะไร ?

          ก่อนอื่น ทำความรู้จักกับภาวะอุจจาระตกค้างก่อน ภาวะอุจจาระตกค้างคือภาวะที่ขับถ่ายอุจจาระไม่หมด ทำให้มีอุจจาระตกค้างอยู่ในลำไส้ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน อุจจาระที่ตกค้างก็จะเพิ่มมากขึ้น กลายเป็นอุจจาระแข็งที่อยู่ในลำไส้ ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยอย่าง ท้องผูกรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน  เวียนศีรษะ  หายใจติดขัด แน่นท้อง มีลมในท้องได้

  ภาวะอุจจาระตกค้าง เกิดจากอะไร ?

           ภาวะอุจจาระตกค้าง สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย โดยสาเหตุการเกิดภาวะอุจจาระตกค้างเกิดจาก

• การถ่ายอุจจาระผิดวิธี เช่น การเบ่งอุจจาระขณะหายใจเข้าแล้วแขม่วท้อง
• การกลั้นอุจจาระ ในสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเข้าห้องน้ำอย่างการเดินทาง การประชุม ทำให้ไม่สะดวกเข้าห้องน้ำ
• ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยเรื้อรัง ที่เคลื่อนไหวน้อย หรือขาดการออกกำลังหาย
• รับประทานอาหารไขมันสูง เช่น ของทอด ของมัน อาหารที่ย่อยยาก 
• ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดบ่อย จนลำไส้เป็นพังผืด มีซอกหลืบให้อุจจาระไปตกค้าง

  ภาวะอุจจาระตกค้าง ส่งผลใดต่อร่างกาย ?

           ผู้ที่มีอาการปวดท้อง ท้องอืด แน่นท้อง ไม่สบายท้อง คลื่นไส้ อาเจียน รวมไปถึงการการเบ่งอุจจาระยาก รู้สึกว่าอุจจาระไม่สุด หรืออุจจาระไม่หมด มีเลือดปนอุจจาระ 

           นอกจากอาการที่เกี่ยวข้องกับการอุจจาระแล้ว ยังมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย อย่าง ปวดหลังส่วนล่าง หายใจติดขัด หายใจได้ครึ่งเดียว ต้องหายใจลึก ๆ ตลอดเวลา รับประทานอาหารได้น้อยมาก เบื่ออาหาร ขมคอ เรอเปรี้ยว และผายลมตลอดทั้งวัน อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ

  เมื่อมีภาวะอุจจาระตกค้าง ควรทำอย่างไร

           เมื่อคุณมีข้อสังเกตุว่ากำลังมีภาวะอุจจาระตกค้าง ให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาด้วยวิธีการสวนทวารหนัก เหน็บยา หรือให้ยาระบาย แต่ทั้งนี้ไม่ควรซื้อยาระบายมาทานเองเด็ดขาด เนื่องจากการทานยาระบายบางประเภทอาจส่งผลให้เกิดภาวะลำไส้ติดยา หรือลำไส้ดื้อยา และต้องเพิ่มปริมาณการใช้ยาระบายขึ้นเรื่อย ๆ

ที่มา : โรงพยาบาลสมิติเวช