อากาศที่เริ่มเย็นลง เหมาะกับการไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ชมธรรมชาติ จัดทริปแคมป์ปิ้ง ต้องระวังโรคไข้รากสาดใหญ่ ซึ่งเป็นโรคที่มาคู่กับการแคมป์ปิ้งด้วย เพราะโรคนี้อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว ก่อนจะไปแคมป์ปิ้ง มาทำความรู้จักกับโรคไข้ราดสาดใหญ่ก่อน

  โรคไข้รากสาดใหญ่เกิดจากอะไร

โรคสครับไทฟัส Scrub Typhus หรือ ไข้รากสาดใหญ่เกิดจากการติดเชื้อโดยมีตัวไรอ่อนเป็นพาหะนำ โดยตัวไรอ่อนจะกัดคนหรือสัตว์เพื่อกินน้ำเหลืองเป็นอาหาร โดยใช้วิธีเกาะอยู่ตามยอดหญ้าหรือใบไม้และกระโดดเกาะตามร่างกายและกัดที่บริเวณรักแร้ ขาหนีบ รอบเอว

  อาการโรคไข้รากสาดใหญ่

อาการของโรคไข้รากสาดใหญ่จะแสดงอาการหลังจากถูกตัวไรกัดประมาณ 10-12 วัน โดยจะมีอาการปวดหัว มีไข้หนาวสั่น มีอาการไอ ตาแดง คลื่นไส้อาเจียน มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย มีผื่นแดงหรือแผลนูนในบริเวณที่ถูกกัด ในบางรายโรคไข้รากสาดใหญ่นี้อาจหายได้เอง แต่บางรายอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงอย่างปอดอักเสบ เยื้อหุ้มสมองและสมองอักเสบ จนถึงเสียชีวิตได้

  โรคไข้รากสาดใหญ่ป้องกันได้อย่างไร

           ในการป้องกันโรคไข้รากสาดใหญ่ สามารถปฏิบัติตัวเมื่อไปเดินป่าได้ดังนี้

• สวมเสื้อผ้าให้มิดชิด เพราะตัวไรอ่อนมักกัดในบริเวณที่ออกนอกร่มผ้า
• ทายากันยุง เลือกยากันยุงที่มีส่วนผสมของสาร DEET หรือใช้สมุนไพรทากันยุง
• หลีกเลี่ยงการเข้าไปในบริเวณที่มีตัวไรอ่อนชุกชุม เช่น ป่าโปร่ง ป่าละเมาะ บริเวณที่มีการปลูกป่าใหม่ ทุ่งหญ้า ชายป่า
• หลังออกจากป่า แนะนำให้ทำความสะอาดร่างกายให้หมดจด เนื่องจากตัวไรอ่อนอาจติดมากับร่างกายหรือเสื้อผ้าได้

          หลังกลับจากการไปแคมป์ปิ้ง ภายใน 1-2 อาทิตย์ หากมีอาการผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาอย่างทันท่วงที

ที่มา : โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์