จริงหรือหลอก? กับความเชื่อ: กินเม็ดผลไม้เสี่ยงไส้ติ่ง

จริงหรือหลอก กินเม็ดผลไม้ เสี่ยงไส้ติ่ง วิริยะประกันสุขภาพ


ถ้าเผลอกินเม็ดผลไม้เข้าไปจะทำให้เป็นโรคไส้ติ่งอักเสบนะ ความเชื่อที่ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น แต่ในความข้อเท็จจริงทางการแพทย์ ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าสามารถเป็นสาเหตุของอาการไส้ติ่งอักเสบได้ และอาการปวดท้องด้านขวาแบบไหน ถึงจะเรียกว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ บทความนี้จะพาคุณไปไขข้อสงสัย พร้อมวิธีสังเกตอาการ และแนวทางการรักษาที่คุณควรรู้ 


   เม็ดฝรั่งเสี่ยงไส้ติ่งอักเสบจริงหรือไม่

โตมาด้วยชุดความเชื่อที่ว่า "ถ้ากินเม็ดฝรั่งลงไปแล้วจะเป็นไส้ติ่ง" แต่ในทางการแพทย์ยังไม่มีหลักฐาน หรือพบว่าเม็ดผลไม้จะเป็นสาเหตุของไส้ติ่งอักเสบ 


   สาเหตุไส้ติ่งอักเสบคืออะไร

ไส้ติ่งอักเสบ เกิดจากสาเหตุการอุดตันบริเวณลำไส้ใหญ่ ในที่นี้ก็เป็นอุจจาระ เพราะโดยบริเวณนี้จะมีผนังเยื่อเมือก หากเกิดการอุดตันบริเวณนี้ เยื่อเมือกชนิดนี้จะไม่สามารถออกมาได้ตามปกติ จนเกิดเป็นการสะสม และส่งผลให้ไส้ติ่งโปร่งออก แน่นอนว่าสิ่งที่ตามคือการเน่า


   ปวดแบบไหนเรียกไส้ติ่งอักเสบ 

ให้จำไว้เสมอว่า “ไส้ติ่งอยู่ด้านขวา” หากมีอาการปวดอย่างรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย แต่ลักษณะอาการปวดมีได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น 

  1. ปวดท้องบริเวณรอบสะดือ แล้วตามด้วยปวดบริเวณด้านขวาในเวลาต่อมา 
  2. ปวดท้องข้างขวาแบบรุนแรง และอาการรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ 
  3. ปวดท้องมากขึ้น เมื่อลุก เดิน หรือแม้กระทั่งการไอ และจาม 
  4. และมีอาการร่วมอย่างคลื่นไส้ อาเจียน รวมถึงอาการท้องเสีย และบางรายท้องอืดท้องผูก 
  5. เมื่อเอามือกดที่ท้อง จะมีอาการปวดแบบจิ๊ด ๆ แบบทรมาน

ข้อควรรู้: หากมีอาการปวดท้องรุนแรงร่วมกับอาการข้างต้น โดยเฉพาะบริเวณท้องน้อยด้านขวา ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

      

      อาการไส้ติ่งอักเสบในผู้หญิง

บริเวณท้องฝั่งขวา จะมีอวัยวะที่อยู่ใกล้กันอย่าง ไส้ติ่ง ปีกมดลูก รังไข่ ดังนั้นจึงไม่แปลก หากคุณผู้หญิงมีอาการปวดท้องจึงทำให้ไม่สามารถแยกออกได้ว่า สาเหตุของอาการปวดท้องในแต่ละครั้งเกิดจากอวัยวะส่วนใด ยกตัวอย่าง บางรายอาจจะปวดท้องแบบปวดกระเพาะอาหาร และหากทานยาแล้วอาการไม่ดีขึ้น ทางที่ดีที่สุด คือ หากมีอาการปวดท้อง ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อทำการวินิจฉัยว่า อาการปวดท้องด้านขวาเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ ทั้งนี้ก็เพื่อทำการเข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที 


   วิธีการรักษาไส้ติ่งอักเสบ 

  • การรักษาไส้ติ่งอักเสบขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรง โดยส่วนใหญ่แพทย์จะแนะนำการ ผ่าตัดไส้ติ่งออก (Appendectomy) ซึ่งสามารถทำได้ทั้งแบบเปิดหน้าท้อง และแบบส่องกล้อง 
  • การรักษาโดยใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อควบคุมการติดเชื้อ ในกรณีระดับความรุนแรงน้อย

 

      เป็นไส้ติ่งห้ามกินผลไม้อะไรบ้าง

  • อาหารดิบ อาหารหมักดอง 
  • อาหารทะเล
  • อาหารที่มีรสจัดจ้าน
  • อาหารที่มีไขมันสูง
  • ของทอด ของมัน
  • ของหวาน ของทานเล่นน้ำตาลสูง 
  • เครื่องดื่มชา กาแฟ 
  • ส้มเขียวหวาน ทุเรียน

      หลังผ่าตัดไส้ติ่งควรกินอะไร 

อาหารที่เหมาะสมคืออาหารประเภทที่ย่อยง่าย ตัวอย่างเช่น

  • ข้าวต้ม โจ๊ก ซุปใส
  • นมถั่วเหลือง, นมอัลมอนด์, โยเกิร์ต
  • ผลไม้อย่าง สาลี่, แก้วมังกร, แอปเปิ้ล, บลูเบอร์รี่


แม้เมล็ดผลไม้จะไม่ใช่ต้นเหตุโดยตรงของไส้ติ่งอักเสบ แต่ก็ควรระวังไม่เผลอกลืนลงไปโดยไม่จำเป็น การรู้ทันเท่าอาการ และหมั่นสังเกตร่างกายของตนอยู่เป็นประจำ จะช่วยให้คุณลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคร้ายโดยไม่ทันตั้งตัวได้ ด้วยความปรารถนาดี จากวิริยะประกันสุขภาพ 


บทความที่คุณอาจสนใจ อ่านต่อ:

เป็นผู้หญิงมันเหนื่อย ปวดท้องน้อยแบบนี้อย่าชะล่าใจ เช็กด่วน

ภาวะอุจจาระตกค้าง เรื่องเล็ก ๆ ที่อาการไม่เล็กตาม

ปวดท้องบ่อย ๆ ระวังเป็น "ช็อกโกแลตซีสต์" ไม่รู้ตัว


ที่มา: โรงพยาบาลพญาไท

สินค้าแนะนำ