WHO ชี้! 3 อาหารไทยยอดฮิต กินทุกวันอาจเสี่ยงมะเร็งตับ
อ่าน 3118 ครั้ง
31 กรกฎาคม 2568
.jpg)
ส้มตำ ผัดไทย ก๋วยเตี๋ยว อาหารไทยที่อยู่ในใจหลาย ๆ คน ไหนจะต้องใส่ถั่วเพิ่ม เติมกุ้งแห้ง ปรุงพริกแบบเผ็ด ๆ #คนไทยติดแซ่บ แต่รู้หรือไม่ว่าแม้จะเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ แต่ถ้าเก็บรักษาไม่ถูกวิธี ก็สามารถกลายเป็นภัยร้ายก่อให้เกิดสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้ “อะฟลาท็อกซิน” สารพิษจากเชื้อราที่ WHO ชี้ว่าเป็นหนึ่งในสารก่อมะเร็งตับที่อันตรายมากที่สุด บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับอะฟลาท็อกซินภัยใกล้ตัวให้มากขึ้น พร้อมวิธีป้องกันตัวจากสารพิษร้ายตัวนี้กัน
รู้จักอะฟลาท็อกซิน คืออะไร
อะฟลาท็อกซิน (aflatoxin) สารพิษจากเชื้อราที่เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้น และสามารถปนเปื้อนในอาหารประเภทต่าง ๆ หากเก็บรักษาไม่ถูกวิธี
ยกตัวอย่างจากเคสคู่สามีภรรยา ตรวจเจอมะเร็งตับเพราะกินผลไม้แบบนี้เป็นประจำ “คู่สามีภรรยาทำอาชีพขายผลไม้ มีนิสัยชอบกินผลไม้ที่ช้ำ และเก็บส่วนที่เหลือแช่ไว้ในตู้เย็น และทั้งสองชอบแทะเมล็ดทานตะวัน ทานไม่หมดก็วางทิ้งไว้แล้วนำมาทานต่อ” คุณหมอกล่าวว่า อะฟลาท็อกซิน (aflatoxin) สารเคมีมีพิษที่มีในผลไม้เน่าเสียและเมล็ดเชื้อรา สามารถแทรกซึมเข้าไปในเซลล์ตับ ทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อเซลล์ตับได้
ข้อควรรู้: WHO กำหนดให้สารอะฟลาท็อกซิน เป็นสารก่อมะเร็งที่ร้ายแรงมาก โดยปริมาณเพียง 1 ไมโครกรัม สามารถทำให้เกิดการกลายพันธุ์ในแบคทีเรีย และทำให้เกิดมะเร็งในสัตว์ทดลองได้ หากได้รับอย่างต่อเนื่อง
วัตถุดิบในอาหารที่ก่อให้เกิดสารอะฟลาท็อกซิน หากเก็บไม่ถูกวิธี
- หัวหอมกระเทียมแห้ง พริกแห้ง พริกไทย งา
- ถั่วลิสง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ มันสำปะหลัง
- อาหารประเภทแป้ง
- มะพร้าวแห้ง ผักและผลไม้อบแห้ง
- ปลาแห้ง กุ้งแห้ง กะปิ
5 วิธีเก็บรักษาวัตถุดิบและอาหารให้ถูกวิธี
- เลือกวัตถุดิบให้สดใหม่ ไม่ชื้น ไม่ซีด ไม่มีกลิ่นหืน
- เก็บรักษาในภาชนะที่แห้ง ปิดสนิท
- เก็บรักษาอุณหภูมิให้คงที่ อย่างในตู้เย็นหรือช่องฟรีซ
- หากมีราขึ้นเพียงเล็กน้อย หรือมีกลิ่นแปลก ๆ นำไปทิ้งทันที
- ห้ามตัดส่วนที่ขึ้นราทิ้งแล้วนำส่วนที่เหลือมาบริโภคอีกเด็ดขาด
กลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังอะฟลาท็อกซิน
ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง หากได้รับสารอะฟลาท็อกซินเข้าไป ได้แก่
- ผู้ป่วยโรคตับ หรือประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นมะเร็งตับ
- โรคอ้วน เบาหวาน
- ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ทานอาหารที่เสี่ยงเกิดเชื้อราได้ง่าย เนื้อสดต่าง ๆ
- มีการใช้ยากระตุ้นและสารเคมี
ทำอย่างไรให้ห่างไกลอะฟลาท็อกซิน
- ปรุงอาหารให้สุกเสมอ ใส่ใจการเลือกวัตถุดิบและการเก็บรักษาที่ถูกต้อง
- หลีกเลี่ยงอาหารที่ขึ้นรา ไม่เก็บมาทานซ้ำ
- ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง ลดการดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายและตรวจสุขภาพเป็นประจำ
ข้อแนะนำ: เมนูส้มตำ ผัดไทย ก๋วยเตี๋ยวที่ต้องใส่ถั่วลิสงคั่ว พริกป่น หรือกุ้งแห้ง ควรสังเกตวัตถุดิบก่อนปรุงเพิ่มทุกครั้ง
อะฟลาท็อกซิน นับเป็นภัยเงียบที่แฝงมาในวัตถุดิบของอาหารไทยยอดฮิต ดังนั้นก่อนบริโภคทุกครั้งควรตระหนักถึงอันตรายของสารพิษนี้ รวมถึงการเลือกซื้อการเก็บรักษาอย่างถูกวิธี จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องคุณให้ห่างไกลมะเร็งตับ
นอกจากดูแลตัวเองแล้ว การวางแผนรับมือโรคร้ายอย่างมะเร็งตับ ด้วยการเลือกซื้อแผนประกันมะเร็ง V-Cancer Easy จากวิริยะประกันสุขภาพ ตรวจเจอมะเร็งรับเงินก้อนทันที พร้อมดูแลครอบคลุมมะเร็งทุกระยะ สามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องตรวจหรือตอบปัญหาสุขภาพ วางใจให้วิริยะประกันสุขภาพ ดูแลคุณและคนที่คุณรัก
บทความที่คุณอาจสนใจ อ่านเพิ่มเติม:
ทราบหรือไม่? ช่วงอายุ 20 ถึง 60 ปี ควรตรวจมะเร็งอะไรบ้าง
WHO เตือน!! เก็บ“ตะเกียบไม้”มาใช้ซ้ำ เสี่ยงมะเร็งยกครัว
ที่มา: คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
สินค้าแนะนำ
ประกันโรคร้าย
ประกันมะเร็ง V Cancer Easy